วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2551

 

 

 

 
Posted by Picasa

ค่ายละครพัฒนาอัจฉริยภาพ (ค่ายต่อเนื่อง)

พี่ต้อมพี่ก๋วย แปลงร่างเป็นครูฝึกสุดโหด ในค่ายละครพัฒนาอัจฉริยภาพ (ค่ายต่อเนื่อง)
วันที่ 8-12 ต.ค 2551 ที่โรงละครมะขามป้อม เชียงดาว

หลังจากที่ได้เปิดรับสมัครเด็กๆจากทั่วประเทศเพื่อมาเข้าค่ายฝึกอบรมเพื่อค้นหาความเป็นอัจฉริยภาพด้านละคร โดยความร่วมมือของ สถาบันส่งเสริมอัจฉริยภาพและนวัตกรรมการเรียนรู้(สสอน) และกลุ่มละครมะขามป้อม ภายใต้ชื่อโครงการที่ว่า ค่ายละครพัฒนาอัจฉริยภาพ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีเด็กที่ได้เข้าร่วมในครั้งนั้นถึง 47 คน หลังจากที่แต่ละคนได้ผ่านการทำกิจกรรมในค่าย หลายคนก็ได้มีโอกาสกลับไปผลิตงานและแสดงอย่างต่อเนื่องภายในโรงเรียนของตัวเอง
ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพเยาวชนเชิงลึก ได้ต่อยอดและส่งเสริมความสามารถพิเศษด้านการละคร เพื่อพัฒนาให้เกิดนักการละครรุ่นใหม่ จึงคัดเลือกเด็กที่ฉายแววความโดดเด่นไม่ว่าจะเป็น ด้านการแสดง การร้อง การเคลื่อนไหว การเขียนบท หรือการกำกับ ได้มีโอกาสมาเข้าค่ายซ้ำ และฝึกฝนอย่างเข้มข้น ซึ่งผลงานที่เกิดขึ้นในค่ายครั้งนี้ จะได้นำไปร่วมแสดงในงานเทศกาลละครกรุงเทพฯ ในเดือน พ.ย. 51 นี้ด้วย
และแล้วการเดินทางของค่ายเด็กอัจฉริยะครั้งที่สองก็เริ่มต้นขึ้น และได้มีเด็กที่เราคาดว่าจะเป็นนักการละครรุ่นใหม่เข้าร่วมขบวนถึง 10 คนด้วยกันคือ เกมส์ นัท จ๋า นอยส์ อั๋น อุ๋ง วสันต์ ไม้ใหม่ บุ๋ม โคะโล๊ะ ถึงแม้ว่าจะดูเงียบเหงาไปหน่อยแต่ทุกคนก็ดูตั้งอกตั้งใจกันดี
สำหรับหลักสูตรในคราวนี้ พี่ต้อม พี่ก๋วย สองวิทยากรหลักของค่าย ได้เตรียมกิจกรรมขั้น “ แอดวาน........ซ์ “ สำหรับน้องๆเพื่อเป็นการท้าทายความสามารถ ด้วยกิจกรรมพัฒนามุมมองผู้กำกับและนักแสดง ที่มะขามป้อมเคยร่วมแลกเปลี่ยนกับสิบผู้กำกับชั้นแนวหน้า ในห้องทดลองผู้กำกับ DIRECTOR’S LAB เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
เริ่มต้นด้วยกิจกรรม LET’S BODY TALK การใช้ร่างกายในการสร้างเรื่องราว เพื่อการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และ เน้นหนักองค์ประกอบทางศิลปะ ภาคบ่ายเป็นการสร้าง INSTALLATION ART ประสบการณ์ประทับใจในความเป็นวัยรุ่นและ การแสดงประกอบงานศิลปะของแต่ละบุคคล ซึ่งน้องๆก็แสดงได้น่าสนใจมากเลยทีเดียว
วันที่ 2 น้องๆต้องแบ่งกลุ่มเล็กๆ ไปสัมภาษณ์ประวัติชีวิตความเป็นวัยรุ่นของคนในตลาดเชียงดาว ตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อนำเรื่องราวมาพัฒนาเป็นการแสดงสั้นๆ ที่น่าสนใจ ประกอบกับ โจทย์ที่ยากกว่าวันแรกด้วยการสร้างเรื่องใหม่จากบุคคลที่ไปสัมภาษณ์มาให้มีความลงตัวทั้งเรื่องการผสมผสานข้อมูลจริงและ จินตนาการเพิ่มเติมเรื่องราวให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น แล้วทำการแสดงด้วยการเชื่อมโยงจากประโยชน์จากพื้นที่ในการแสดง (SPACE) ให้ได้มากที่สุด เสร็จสิ้นวันที่สองด้วยกระบวนการนำเสนอละครสั้นสองเรื่อง สุดสร้างสรรค์ ในเรื่อง ปมในใจของอุ๊ย และ เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตทางเพศผิดพลาด
วันที่3-4 เป็นการพัฒนาบทละคร ด้วยเทคนิค DEVISING การให้น้องๆสร้างเรื่องด้วยการกำหนดสถานการณ์ หรือ โจทย์บางอย่างให้เพื่อพัฒนาเทคนิคการเล่าเรื่องราวให้หลุดจากกรอบคิดเดิม ๆ การตีความคำที่ต้องการสื่อสารให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เพื่อนำมาผลิตเป็นการแสดงที่มีมิติ และ มีความหมาย จนวันสุดท้ายจึงได้ การแสดงสั้น ที่เน้นการอ่านบทละครสั้นๆ และ การใช้ร่างกายประกอบการแสดง พร้อมคำแนะนำจากพี่ริชาร์ด ในเรื่องการนำเสียงสร้างสรรค์เข้ามาใช้ในละคร เพื่อเพิ่มเสน่ห์ของการเล่าเรื่อง
การแสดงสั้นๆเป็น SHOWCASE ชิ้นนี้ ชื่อว่า “ วัยรุ่น วัยวุ่น “ น้องๆจะนำมาร่วมแสดงในงานเทศกาลละครกรุงเทพ 2008 ในวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2551 เวลา 17.00 น ที่เวทีเยาวชน สวนสันติชัยปราการ ใครมีเวลาและอยากมาให้กำลังใจ หน่ออ่อนแห่งวงการละคร ห้ามพลาดนะจ๊ะ

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2551

 

 

 

 
Posted by Picasa

โครงการพัฒนาศักยภาพคนทำงานภาคประชาสังคม



โครงการแบ่งปัน มหาวิทยาลัยศรีปทุม และ MICROSOFT จับมือเริ่มโครงการพัฒนาศักยภาพคนทำงานภาคสังคม
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม 401 มหาวิทยาลัยศรีปทุม ท่ามกลางสายฝนเทกระหน่ำ
ได้ฤกษ์เปิดห้องเรียนครั้งแรกสำหรับโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการทางสังคม (รุ่นที่ 1 ) โดยความร่วมมือของโครงการแบ่งปัน มหาวิทยาลัยศรีปทุม และ MICROSOFT นับว่าเป็นความร่วมมือที่น่าสนใจระหว่าง NGOs สถาบันการศึกษา และ ภาคธุรกิจ ที่ต้องการสร้างเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ให้กับคนทำงานด้านประชาสังคม ซึ่งมีองค์กรภาคประชาสังคมเข้าร่วมโครงการถึง 31 องค์กร เช่น มูลนิธิเด็ก Greenpeace สิกขาเอเชีย อโชก้า กระจกเงา มูลนิธิเพื่อการไม่สูบบุหรี่ รวมทั้ง มะขามป้อม ก็ได้ส่งมะขามก๋วย และ น้องแต เข้าประกวดเอ้ยไม่ใช่ เข้าร่วมโครงการด้วย โดยการเรียน แบ่งออกเป็น 11 ครั้ง รวม 66 ชั่วโมง ทั้งเรื่องการบริการจัดการองค์กร การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาการเรียนรู้ของบุคคลากร หรือ การเรียนรู้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในครั้งแรกเป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจด้านสังคม ในเรื่องธรรมาภิบาลการเมืองการปกครองไทย โดย ผศดร.ไพโรจน์ ภัทรนรากุล รองคณบดีรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดยอาจารย์มาให้ภาพรวมของหลักการเรื่องธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นแนวคิดพื้นฐานที่สังคมควรนำมาเป็นบรรทัดฐานในการบริการองค์กร หรือ หน่วยงานของตน ตั้งแต่ระดับประเทศถึงชุมชน และ ครอบครัว ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทยขณะนี้ก็มีจุดเริ่มต้นที่การชขาดธรรมาภิบาล นั่นเอง จึงหมักหมม กลายเป็นปัญาหารุกลาม มาจนยากเกินกว่าจะแก้ไขได้ในเวลาอันรวดเร็ว
โครงการนี้ยังมีการดำเนินงานต่อเนื่องไปอีกหลายครั้ง หากมีโอกาส และไม่ขาดเรียน มะขามก๋วย จะนำสาระดีๆจากห้องเรียนมาฝากอีกครั้ง นะขอรับ
ต้องขอขอบคุณทั้งสามหน่วยงานที่ตั้งอกตั้งใจ ทำโครงการดีๆที่น่าสนับสนุนอย่างนี้ ออกมา ใครที่สนใจแต่สมัคร ไม่ทันไม่ต้องเสียใจ เข้าใจว่าปีหน้าคงดันรุ่น2 ให้คลอดได้อย่างแน่นอน

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2551

 

 

 

 
Posted by Picasa

ละครโรงเล็กกับเด็กเชียงดาวครั้งที่ 9



โรงละครมะขามป้อมหวิดแตก เมื่อกองทัพเด็กเกือบ 400 ชีวิตบุก !!!!!!

เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ฟ้าสดใส เบิกฤกษ์งามยามดีตั้งแต่เช้า ดอยเชียงดาวปรากฎตัวให้เห็นตั้งแต่เช้าตรู่ เหล่าสต้าฟหน้าเหี้ยมหัวใจแอ้บแบ๊วทั้ง 4 ประกอบด้วย อบตหัวฟูกั๊ก นักฟุตบอลประจำชุมชนคุณนิสัน นางฟ้าน่าทะนุถนอมในคราบอีลำยองน้องปุ้ย และ คุณครูธุรการน้องมน ต่างกระวีกระวาดตระเตรียมสถานที่ ต้อนรับขบวนการนักแสดงเด็กหน้าใหม่ จากโรงเรียนบ้านทุ่งหลุก(อีกแล้ว) ที่คราวนี้เปลี่ยนรุ่น เป็นเด็กป.4-5 เพราะเด็กเก่าจบออกไปเรียนต่อมัธยมแล้ว เตรียมตัวซ้อมละครมาโชว์เต็มที่ เพราะขนผลงานการสร้างเรื่องจากการสำรวจชุมชน ส่วนหนึ่งในกิจกรรมการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นด้วยกระบวนการศิลปะ จากฝีมือการกำกับของอาจารย์ต้อม ที่พิเศษกว่าทุกครั้งก็คือ วันนี้จะเป็นการแสดงประชันกับพี่ๆรุ่นใหญ่ เอกสื่อสารการแสดงปริญญาโท จาก นิเทศศาสตร์ จุฬา ลูกศิษย์อาจารย์ริชาร์ด ที่อุตส่าห์แบกหน้ามาเรียนถึงริมดอย เลยทีเดียว
หลังจากเตรียมตัวกันจนหน้าเหี่ยว เด็กๆก็เริ่มเดินทางมาถึง จากสิบเป็นร้อย จากร้อยเป็นหลายร้อย รวมแล้วเกือบ 400 คน จาก 9 ศูนย์เด็กเล็กเขตบ้านแม่นะ โอ้มายก้อด เหมือนหนอนน้อยยั้วเยี้ยโรงละคร เด็กๆตื่นเต้นกันมากเพราะจะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ดูละครสดๆ หลายคนเหมารถลงมาจากดอยเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
เริ่มต้นด้วยกิจกรรมหลอกเด็กโดย พี่กั๊ก กับพี่มน เหมือนเคย แล้วก็เป็นการแสดงละครเรื่อง ตำนานบ้านทุ่งหลุก โดยพี่เด็กๆในชุมชน ต่อด้วยละครนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า จากพี่ๆนิเทศ จุฬา การแสดงจบเด็กหลายคนร้องไห้ ไม่ใช่เพราะละครเศร้า แต่เพื่อนนั่งทับหัวแม่ตีน พี่กั๊กแบ่งกลุ่มเด้กออกเป็น 4 เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม 4 ซุ้ม คือ ปั้นดินเหนียว ร้อยลูกป้ด เล่านิทาน และ วาดรูปโปสเตอร์นิทาน เมื่อเข้าสู่กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ บรรยากาศแห่งความสนุกสนานปนอลหม่านก็เริ่มขึ้น เพราะเด็กๆ สนใจไปหมดกับการทำกิจกรรม ที่พี่ๆรังสรรค์
จนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนเกือบเที่ยงเด็กก็เดินทางกลับโรงเรียนเพื่อไปทานข้าวกลางวัน
บรรยากาศโรงละครจึงกลบเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง

หมายเหตุ กิจกรรมละครโรงเล็กกับเด็กเชียงดาว เป็นกิจกรรมบริการชุมชน ที่มะขามป้อมจัดขึ้นทุกเดือน ให้กับเด็กๆและโรงเรียนในชุมชน ได้มีโอกาสใช้พื้นที่เชิงศิลปวัฒนธรรมและกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน การเรียนรู้ รวมทั้งสร้างความเข้าใจในความแตกต่างของกลุ่มคนต่างๆในชุมชนตั้งแต่วัยเยาว์ ขณะนี้กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากเด็ก ผู้ปกครองโรงเรียน ในชุมชนเป็นจำนวนมาก หากท่านสนใจสนับสนุนกิจกรรมในโครงการนี้ สามารถสมัครเป็นอาสาสมัครอ่านนิทานหรือ สอนศิลปะเด็ก บริจาคหนังสือนิทานของท่าน หรือ ทุนทรัพย์ เพื่อเป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ในการทำกิจกรรม โดยสามารถติดต่อได้ที่ อีเมล์มะขามป้อม makhampom2@hotmail ตลอดเวลาจ้า

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

งานแถลงข่าวละครสะท้อนปัญญา

ละครสะท้อนปัญญาเปิดตัวแล้วอย่างคึกคัก สื่อสนใจทำข่าว ล้นทะลักมะขามป้อมสตูดิโอ
สดๆร้อนๆ มะขามป้อมได้ฤกษ์เปิดตัวโครงการใหญ่ ใหม่ล่าสุด “ละครสะท้อนปัญญา” หวังสร้างนักละครเลือดใหม่ประดับวงการละครเวทีไทย
ผูู้สื่อข่าวหน้าใหญ่ รายงานสดๆเพราะเพิ่งผ่านมาหยกๆเมื่อวันที่ 17 กันยา 51 จากมะขามป้อมสตูดิโอในวันเดียวกับที่มีการยกมือเลือกตั้งนายกคนใหม่ในสภาว่า มีงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการละครสะท้อนปัญญาด้วยการสนับสนุนเต็มกำลังจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) นักข่าวสื่อมวลชนจากหลายสำนักเริ่มทยอยมาถึงสตูดิโอกันในช่วงบ่ายๆ ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย แล้วเริ่มต้นด้วยการกล่าวทักทาย โดยพิธีกรสาวสวยของงานนี้ จากรายการกบนอกกระลา แวนด้าหน้าเด็ก ดวงธิดา นครสันติภาพ อาสาสมัครศิษย์เก่าที่ไปได้ดิบได้ดีอีกคน ตามมาด้วยละครสั้นสะท้อนปัญญาและสังคม เรื่องเกมชีวิต GTA ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ นักเรียนม. 6 จี้แท้กซี่ เรื่องราวเบื้องหลังของสองชีวิตบนรถแท้กซี่คันนั้น ที่ไม่มีใครคิดจะสนใจ มากไปกว่าปรากฏการณ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ ด้วยฝีมือการแสดงอันยอดเยี่ยมของน้องโอ้ค และน้องเกรียง จากพระจันทร์เสี้ยวการละคร และ ริ้วรอยการกำกับอันเฉียบขาดของคุณประดิษฐ ศิษย์ศิลปาธรของเรานั่นเอง ทำเอาคนดูเงียบกริบไปทั้งโรงละคร (ไม่ใช่หลับแต่สัปหงกฮ่าๆๆๆ)
แล้วก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญของรายการ คือ การเสวนา “พลังทางปัญญากับสถานการณ์เยาวชนในสังคมไทย” ด้วยแขกรับเชิญที่น่าสนใจมาก 4 ท่าน คือ
คุณหมอ บัญชา พงษ์พานิช ผู้อยู่เบื้องหลังผลักดันโครงการนี้ให้เป็นจริง
“สสส อยากผลักดันโครงการนี้เพราะเชื่อมั่นในพลังของเยาวชนว่าสามารถทำอะไรดีๆให้กับสังคมได้ เด็กเรียนรู้ผ่านการเล่นเหมือนการเล่นละครเป็นการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ให้เยาวชนสามารถสื่อสารเรื่องราวทางปัญญาเป็นเรื่องที่มีความสำคัญจำเป็นกับสังคมในทุกวันนี้ เพราะจะเป็นทางออกไปสู่แสงสว่าง ส่วนละครนั้นเป็นมหรสพทางจิตวิณญาณของมนุษย์ เหมือนที่อาจารย์ของท่าน คือท่านพุทธทาสเคยสอนว่ามนุษย์ต้องการ”สิ่งประเล้าประโลม”ละครเป็นความบันเทิงทางปัญญาช่วยให้คนในสังคมมีความคิด มีความสุข จึงมาร่วมมือกับมะขามป้อมช่วยกันพัฒนาโครงการนี้ขึ้นมา
น้องเต้า กิตติพันธ์ กันจินะ ผู้อำนวยการ โครงการกล้าเลือกกล้ารับผิดชอบ เครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ประเทศไทย
โครงการนี้จะสร้างทางเลือกที่สร้างสรรค์ให้กับเยาวชน ทำอะไรที่ตัวเองสนใจ จากประสบการณ์ตัวเอง ที่เคยผ่านกระบวนการละครมาเต้าพบว่าละครไม่ใช่ทำให้เด็กเป็นคนดีแต่ช่วยทำให้มีช่องทางในการสื่อสารกความคิดกับเพื่อนๆในชุมชน ปัญญาคือการ คิดวิเคราะห์แยกแยะได้ ปัญญาที่เหมาะกับวัยรุ่นคือการลองผิดลองถูก เรียนรู้ด้วยตัวเอง และเชื่อว่าจะช่วยให้เด็กๆได้สนุกกับโครงการนี้แน่นอน
คุณเจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ ผู้รับบท “ดอน กิโอเต้แห่งลามันช่า” จากละครเวทีที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม “สู่ฝันอันยิ่งใหญ่”
บทละครดีๆช่วยให้คนดูมีความหวัง มีกำลังใจ อาจถึงขั้นเปลี่ยนแปลงชีวิต เช่นบทละครเรื่อง สู่ฝันอันยิ่งใหญ่ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคนหลายคน ส่วนผู้ผลิตหรือผู้แสดง การได้ฝึกฝนการแสดงละคร การเคลื่อนไหว การใช้เสียง การตีความ จะช่วยให้ เรามีสติ สมาธิ เห็นแง่มุมบางอย่างไปสู่การเข้าใจตัวเอง หรือ ปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี
คุณพี่ตั้ว ประดิษฐ ประสาททอง ผู้อำนวยการศิลปะของโครงการนี้ บอกว่า
ละครเวทีเป็นอิสระจากการหาเงินทุนและธุรกิจ จึงสามารถในการนำเสนอปัญญาให้กับสังคมได้ โครงการนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตให้กับผู้ชม นอกจากนั้นยังเน้นเปลี่ยนแปลงทัศนคติการมองโลกของเยาวชนผู้ผลิตละครในโครงการ มองเห็นศักยภาพในตัวเองเพราะเราเชื่อมั่นว่า คนทุกคนมีสิ่งดีๆซ่อนอยู่ ดังนั้นละครจะเป็นเวทีที่ทำให้สามารถดึงศักยภาพเหล่านั้นออกมา เป็นพลังทางบวกที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดีร่วมกันต่อไป
สุดท้าย คุณก๋วย มะขามเม็ดโต หัวหน้าโครงการ ออกมาเล่าถึงรายละเอียดโครงการอย่างรวบรัด ก่อนที่นักข่าวจะรุมกันสัมภาษณ์ วิทยากรบนเวทีอย่างเมามัน
“อยากจะบอกว่าโครงการนี้เปิดรับสมัครน้องๆนักศึกษา ทุกคนที่มีความฝัน มีไฟ และ สนใจงานละคร รีบรวมตัวกันแล้วสมัครมาเลยอย่ารั้งรอเพราะเปิดรับสมัครถึง 15 ตุลาคม 51 เท่านั้น เรามีโอกาสดีๆเตรียมให้น้องๆทุกคนอยุ่ รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่หาไ่ม่ได้งา่ยๆ ถ้าพลาดอาจต้องรออีกเป็นปี “ หัวหน้าโครงการกล่าวอย่างมีอารมณ์ …(ขัน)
สนใจติดต่อพี่ฝน หรือ u_drama@hotmail.com www.makhampom.net
บล้อค dramaspirit.blogspot.com