วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

วันแรกในฮ่องกง






16 ก.ค 2550

สวัสดี เช้าวันแรกที่ฮ่องกง ตื่นขึ้นมา งัวเงียนิดหน่อยเพราะเช้ากว่าบ้านเราหนึ่งชั่วโมง เดินสะเงาะสะแงะไปหาอะไรกินข้างล่าง ที่ร้านอาหารเดียวกับที่กินเมื่อคืนนี้ คิดว่าจะสั่งโจ้กกิน แต่กลายเป็นมาม่ากับไส้กรอกไปซะอย่างงั้น ก็ดีอร่อยดี ค่าใช้จ่ายที่นี่แพงกว่าบ้านเรานิดหน่อย อาหารเช้า 15 เหรียญ กับกาแฟเย็น 5 เหรียญ รวมแล้วร้อยนึงพอดีๆ เดินไปดูดบุหรี่ไม่ค่อยจะมี ออกจากมหาลัยมาหน่อย เจอสวนเล็กๆ ใต้ถนนที่ไขว้ข้ามกันไปมา ที่นี่เขาใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์จริงๆ เล็กๆน้อยๆก็ไม่ได้ สร้างประโยชน์ให้สาธารณะจริงๆเลย เรานั่งรถเมล์ ไปเล่นๆเพราะยังมีเวลาเหลือ กะว่าจะนั่งชมเมืองสักเล็กน้อย มันพาเข้าเมืองพ้นตลาดที่เป็นเนินเขา แล้ววกขึ้น โทล์เวย์ยาวเบื้อย พาลงอุโมงค์มืดๆ ข้ามฝั่งไปเกาลูน อารมณ์เหมือนเยาวราช เรารอจนแน่ใจว่า รถเมล์สาย 907 จะกลับมาที่เดิมเพราะที่นี่บางทีรถเมล์ไม่วิ่งทับทางเดิมเพราะทางมันวนเวียนเหลือเกิน เราเดินลงย่านไชน่าทาว์น อันที่จริงมันก็ไชน่าทาว์นเหมือนกันหมดนั่นแหละ เหมือนเยาวราช แล้วนั่งรถกลับมาเจอกับริชาร์ดแล้ว ได้เวลาที่นัดกับน้องเจมี่พอดี มารับเราเดินทางไปที่ โรงละคร Cattle Depot Artist Village เป็นเหมือนโรงเตี๊ยมเก่า เข้าใจว่าต้องเป็นตึกที่สร้างตั้งแต่สมัยสร้างเมืองเป็นแน่แท้ เขาดัดแปลงโรงฆ่าสัตว์เก่าเป็น Art Space มีArt Museum และ โรงเก็บของเก่า เป็นอาคารติดๆกันสี่ห้าอาคารน่าสนใจมาก ในย่านที่เป็นที่อยู่อาศัยเก่าๆ โทรม อารมณ์เหมือนแฟลตดินแดงขนาดใหญ่ เดินอาหารกินเป็นโจ๊กฮ่องกงกับ ปาท่องโก๋อันเท่าควาย อิ่มไปสามวัน ขายโดยอาซิ่ม กะอาเฮียที่พูดอังกฤษไม่ได้ เลยต้องใช้นิ้วชี้ๆเอา มาที่นี่สั่งอะไรกินก็มักจะได้อีกอย่างเสมอ มันส์ดีแท้ แต่โจ๊กฮ่องกงรสชาติดีมากๆเลย เป็นโจ๊กปลากะพง รสชาติกลมกล่อมนุ่มลิ้นไม่คาว สมอยากกับที่อยากกินแต่สั่งพลาดไปเมื่อตอนเช้า เสร็จแล้วเดินกลับมาที่โรงละคร กลางแดดเปรี้ยง ที่ร้อนไม่แพ้กรุงเทพเลยสักนิด ที่เห็นในหนังฮ่องกงใส่สูทกันสุดริด กูว่ามันบ้าแท้ๆ ร้อนตับแตกดีแท้ กลับมาก็เจอเพียวกับเอ้ดดี้กำลังซ้อมเทคนิคกันอยู่ ส่วนพี่ตั้วกับริชาร์ดไปเตรียมตัวขึ้นเวที ในพิธีเปิด ก่อนหน้าแล้ว เราโฟกัสไฟเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว แล้วรีบตามไปด้วยการนั่งรถเมล์สาย 5 ไปที่ท่าเรื่อสตาร์เฟอร์รี่ สุดสายรถเมล์ เป็นตึกขนาดใหญ่ของ Hongkong Cultural Center มีโรงคอนเสิรต์ และ ห้องจัดนิทรรศการใหญ่โตทีเดียว เข้าไปลงทะเบียน แล้วแทรกตัวไปเนียนกับแขกผู้มีเกียรติ ที่มาจากคณะละครสายการศึกษาจากทั่วโลก นั่งรอด้วยคอกเทลสักครู่ก็เลยเดินเข้าไปในฮอลล์ เป็นโรงคอนเสริต์ แล้วสักพักการแสดงเปิดก็เริ่มต้นขึ้น ด้วยนักดนตรีในภูมิภาค มาเล่นดนตรีแล้วมีนักเต้น มาเต้นบัลเล่ต์หยองแหยงไปมาสักพักมีพระเอกงิ้วออกมาวาดลีลา แล้วศิลปินนักเขียนอักษรจีนก็เขียนตัวอักษรใหญ่กลางเวที อารมณ์ยินดีต้อนรับ สักพักก็เชิญผู้ใหญ่มากล่าวเปิดคนละนานๆ รวมสามคน แล้วเชิญตัวศิลปินขึ้นเวที ทีละชาติ จนครบ แล้วทำพิธีปลูกต้นไม่ใหญ่ยักษ์ อุปมาว่าเป็นเมล็ดพันธุ์ศิลปะ ที่จะเติบใหญ่ไว้กู้โลก ปิดท้ายด้วยสิงโตปักกิ่ง ตุ้งแช่ตัวใหญ่และฝีมือการเชิดไม่เลว เรียกความคึกคักและเร้าใจฝรั่งต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง
พวกเรากลับออกมาเมื่อเกือบ ห้าโมงครึ่ง พร้อมกับ Kokman Bernard และ Gwan จากมาเลเซีย มาแวะกินอาหารจีน เละๆไม่อร่อยที่สี่แยก แล้วกลับมาซ้อมต่อที่โรงละครหนึ่งเที่ยว การซ้อมดำเนินไปด้วยดี ไม่มีอุปสรรคอะไร โรงละครเล็กน่ารักขนาดกำลังดีกับคนดูที่ไม่มากเกินไป ด้วยความช่วยเหลือจากสามสาวเทคนิคเชี่ยนแห่งโรงละคร ONandON กลับมาหอพักด้วยการต่อรถเมล์อันยาวนาน จบวันแรกของการตะลุยเกาะฮ่องกงด้วยความหฤโหด เกินบรรยาย

ไม่มีความคิดเห็น: